Request Test Drive

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ฉลองครบรอบ 1 ปีแห่งการริเริ่มโครงการพลังงานสะอาด ณ สำนักงานใหญ่ เมืองครูว์

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ฉลองครบรอบ 1 ปีของโครงการโลจิสติกส์ที่สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ ณ สำนักงานใหญ่ เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ การติดตั้งถังและปั๊มเชื้อเพลิงชีวภาพขนาด 34,000 ลิตรได้ช่วยลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากพาหนะขนส่งในพื้นที่ลงกว่า 233 ตันในระยะเวลาเพียงแค่ 12 เดือน โดยผลจากการริเริ่มโครงการนี้ทำให้เบนท์ลีย์สามารถบริหารจัดการโลจิสติกส์ภายในองค์กรโดยใช้พลังงานสะอาดได้ 100 เปอร์เซ็นต์

เชื้อเพลิงชีวภาพ 'Green D+' ผลิตจากน้ำมันพืชเติมไฮโดรเจน (HVO) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกที่ปราศจากฟอสซิลสำหรับใช้ทดแทนน้ำมันดีเซล และถือเป็นการนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ อาทิ ไขมันเหลือทิ้ง ผัก และน้ำมัน โดยปัจจุบันเชื้อเพลิงชีวภาพสามารถใช้ขับเคลื่อนรถบรรทุกสินค้าขนาดหนักได้ถึง 15 คัน ซึ่งบรรทุกอะไหล่ระหว่างเมืองครูว์ และคลังเก็บสินค้าในเมืองวินส์ฟอร์ด และรวมถึงรถตู้และรถยนต์สำหรับรักษาความปลอดภัยอีก 20 คัน

รถขนส่งของเบนท์ลีย์ใช้เชื้อเพลิงจากของเสียมากกว่า 100,000 ลิตร นับตั้งแต่มีการติดตั้งถังและปั๊มใหม่เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2563 เพื่อชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณเท่ากัน ซึ่งจะช่วยประหยัดได้ถึง 86 เปอร์เซ็นต์ บริษัทจะต้องปลูกต้นไม้กว่า 23,291 ต้น ซึ่งการลดการปล่อยมลพิษยังได้ช่วยยืนยันได้ว่าการที่โรงงานของเบนท์ลีย์ได้รับการรับรองมาตรฐาน PAS 2060 นั้น ทำให้การชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเปรียบเทียบกับการรับรองครั้งแรกในปี 2562

นอกจากการใช้เชื้อเพลิงน้ำมันพืชเติมไฮโดรเจนแล้ว รถบรรทุกจำนวนกว่า 250 คันของเบนท์ลีย์และรถลากจูงที่ใช้ภายในโรงงานเองก็ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน โดยพลังงานส่วนใหญ่มาจากแผงโซลาร์เซลล์จำนวน 30,000 แผง ซึ่งใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ ซึ่งมีส่วนสำคัญในการต่ออายุการรับรองมาตรฐานด้านความเป็นกลางทางคาร์บอน PAS 2060 โดย Carbon Trust

โครงการเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Beyond100 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้บริษัทเป็นผู้นำระดับโลกในด้านการผลิตอัครยนตรกรรมที่ยั่งยืน โดยกลยุทธ์ Beyond100 จะเปลี่ยนการดำเนินงานของเบนท์ลีย์ โดยรวมถึงการเปลี่ยนสู่การผลิตอัครยนตรกรรมไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบภายในปี 2573 ทำให้บริษัทมีความเป็นกลางทางคาร์บอนทั้งระบบภายในช่วงเวลาเดียวกัน

Peter Bosch กรรมการบริหารฝ่ายการผลิต เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวว่า งานโลจิสติกส์ในพื้นที่ของเราครอบคลุมระยะทางประมาณ 300,000 ไมล์ต่อปี ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีในการริเริ่มการใช้เชื้อเพลิงแบบหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งในพื้นที่ของเราได้ถึงร้อยละ 86 และในขณะที่เรากำลังพยายามมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนทั้งระบบภายในปี 2573 การริเริ่มโครงการนี้จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายในอนาคต

หนึ่งปีหลังจากการเริ่มดำเนินการใช้เชื้อเพลิงหมุนเวียนอย่าง น้ำมันพืชเติมไฮโดรเจน และ ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ความยั่งยืนด้านโลจิสติกส์ของเราในระยะสั้นและระยะกลาง โดยในขณะที่เรากำลังดำเนินการเพิ่มปริมาณการใช้เชื้อเพลิงหมุนเวียนเมื่อเดือนกันยายน ซึ่งเป็นสัปดาห์ "gotozero" เราได้ดำเนินการนำร่องการส่งมอบอัครยนตรกรรมไปยังผู้แทนจำหน่ายในสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรกด้วยการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Beyond100 ในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูที่ยั่งยืนที่สุดของโลก”

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร 02 261 1050 หรือ LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V

เกี่ยวกับเบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าเบนท์ลีย์ทุกท่านและรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคัน ด้วยทีมวิศวกรที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูงนานกว่า 30 ปี โดย เอเอเอสฯ ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนมากเพื่อจัดส่งวิศวกรไปฝึกอบรมที่โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประเทศอังกฤษ ทุกปี ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอสฯ ดูแลทั้งรถและคุณ (AAS Looking after YOU and your CAR)" และให้ชื่อ AAS เป็น “The Name you can Trust” มานานกว่า 30 ปี

Gallery