เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยสถิติผลประกอบการปี 2564

(ครูว์ 15 มีนาคม 2565) เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประกาศสถิติผลประกอบการปี 2564 อ้างอิงจากสถิติยอดขายสูงสุดในช่วง 12 เดือน โดยสามารถสร้างผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจถึง 389 ล้านยูโร มากกว่าปี 2563 กว่า 369 ล้านยูโร

โดยมียอดขายในปีที่แล้วซึ่งสูงถึง 2.845 พันล้านยูโรจากความต้องการด้านการออกแบบเฉพาะตัวและโมเดลที่หลากหลาย อาทิ รุ่น Speed, Mulliner และ Hybrid ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อรถยนต์หรูหนึ่งคันเพิ่มขึ้นกว่า 8% ในปี 2563 และส่งผลให้ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 13.7%

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประกาศยอดส่งมอบรถยนต์ทั่วโลกกว่า 14,659 คัน ในปี 2564 โดยเพิ่มขึ้นกว่า 31% จากสถิติปี 2563 มากไปกว่านั้น ลูกค้ายังคงให้ความสนใจในรถยนต์รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มียอดสั่งซื้อสูงเป็นประวัติการณ์เมื่อช่วงต้นปี 2565

ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสนใจของลูกค้าที่มีต่อรถยนต์หรูรุ่นใหม่ล่าสุดและกลยุทธ์ Beyond100 ของเบนท์ลีย์เพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573 ความคิดริเริ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากโครงการด้านลงทุนระยะยาวกว่า 10 ปี ณ โรงงาน เมืองครูว์ มูลค่ากว่า 3 พันล้านยูโร ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเบนท์ลีย์ โดยบริษัทฯ วางแผนที่จะเปิดตัวอัครยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่นใหม่ทุกปีเป็นเวลาห้าปีนับตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไปเพื่อตอบรับกระแสความต้องการของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

Adrian Hallmark ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวถึงผลประกอบการที่น่าประทับใจนี้ว่า ผลลัพธ์เหล่านี้ถือเป็นความสำเร็จท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จครั้งสำคัญสำหรับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ในขณะที่เรากำลังผลักดันกลยุทธ์ Beyond100 เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2573”

Jan-Henrik Lafrentz คณะกรรมการฝ่ายการเงินและเทคโนโลยีสารสนเทศ เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวเสริมว่า ความแข็งแกร่งของแบรนด์เป็นกุญแจสำคัญสำหรับผลประกอบการของเบนท์ลีย์ในปี 2564 ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่อย่าง Bentayga Hybrid ซึ่งช่วยเพิ่มผลกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 389 ล้านยูโร และความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสำหรับรถยนต์รุ่นไฮบริดจากการสนับสนุนด้านการลงทุนอย่างยั่งยืนกว่า 3 พันล้านยูโร ณ โรงงาน เมืองครูว์ ทำให้มั่นใจได้ว่าเราจะยังคงเป็นผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูที่ยั่งยืนชั้นแนวหน้า”

ผลประกอบการช่วง 10 ปี: 

ปี

ยอดส่งมอบรถยนต์

รายได้ (ยูโร)

ผลกำไร (ยูโร)

2564

14,659

2,845 ล้าน

389 ล้าน

2563

11,206

2,049 ล้าน

20 ล้าน

2562

11,006

2,092 ล้าน

65 ล้าน

2561

10,494

1,548 ล้าน

-288 ล้าน

2560

11,089

1,843 ล้าน

55 ล้าน

2559

11,023

2,031.1 ล้าน

112.1 ล้าน

2558

10,100

1,935.9 ล้าน

110.4 ล้าน

2557

11,020

1,746.4 ล้าน

170 ล้าน*

2556

10,120

1,678.7 ล้าน

167.7 ล้าน

2555

8,510

1,453.2 ล้าน

100.5 ล้าน

*สถิติผลกำไรที่ผ่านมา

เอเอเอสฯ มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดในการครอบครอง เบนท์ลีย์ เบนเทก้า ไฮบริด ใหม่ (New Bentayga Hybrid) กับราคาเริ่มต้นที่ 13.2 ล้านบาท และ เบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง สเปอร์ ไฮบริด (Flying Spur Hybrid) กับราคาเริ่มต้นที่ 14.2 ล้านบาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันจากโรงงานผู้ผลิตฯ พร้อมตัวเลือกสำหรับแผนต่อระยะเวลาการรับประกันจากโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี และผู้ช่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปีเต็ม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร 02-261-1050 หรือ LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V

เกี่ยวกับเบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าเบนท์ลีย์ทุกท่านและรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคัน ด้วยทีมวิศวกรที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูงนานกว่า 35 ปี โดย เอเอเอสฯ ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนมากเพื่อจัดส่งวิศวกรไปฝึกอบรมที่โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประเทศอังกฤษ ทุกปี ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า "เอเอเอสฯ ดูแลทั้งรถและคุณ (AAS Looking After YOU And Your CAR)" และให้ชื่อ AAS เป็น “The Name You Can Trust” มานานกว่า 35 ปี

Gallery