Request Test Drive

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม Continental GT – Flying Spur Black Edition แกรนด์ทัวเรอร์พันธุ์ดุ รุ่นลิมิเต็ด 400 คันในโลก

(ครูว์ 15 เมษายน 2568) เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยโฉม รุ่น Continental GT และ รุ่น Flying Spur Black Edition ที่ผสมผสานรูปลักษณ์ที่เข้ม ดุดัน และโดดเด่นผ่านชุดแต่ง Blackline Specification ที่เข้ากันกับระบบส่งกำลัง High Performance Hybrid 680 แรงม้า พร้อมด้วยการตกแต่งภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์อย่างโลโก้เบนท์ลีย์ ‘Winged B’ สีดำเงาที่ฝากระโปรงด้านหน้าและด้านหลัง คาลิปเปอร์เบรกสีส้ม Mandarin และโลโก้ Black Edition ที่จะเผยให้เห็นด้านมืดของ Continental GT และ Flying Spur สุดยอดแกรนด์ทัวเรอร์สมรรถนะสูง โดยโรงงานจะจำกัดสายการผลิตที่ 400 คันทั่วโลกเท่านั้น

รุ่น Black Edition ผสานระบบส่งกำลังแบบ High Performance Hybrid ประสิทธิภาพสูงใหม่เข้ากับแชสซี Bentley Performance Active ซึ่งแชสซีนี้จะมีเฉพาะในรุ่น Speed เท่านั้น โดยระบบส่งกำลังที่ผสานเครื่องยนต์ V8 เทอร์โบคู่ขนาด 4.0 ลิตรเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าอันทรงพลังจะให้พละกำลังรวมกว่า 680 แรงม้า แรงบิด 930 นิวตันเมตร ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่น Continental GT Speed W12 เจเนอเรชันก่อนหน้า

การออกแบบที่โดดเด่น
รุ่น Black Edition ใหม่มาพร้อมคุณสมบัติ Blackline Specification ที่จะสะท้อนภาพลักษณ์ที่ล้ำสมัย โฉบเฉี่ยว และลึกลับ อาทิ กระจังหน้าแบบเมทริกซ์สีดำเงา สปลิตเตอร์ด้านหน้าสีดำ Beluga และการตกแต่งส่วนอื่นด้วยสีดำเงาที่ไม่เหมือนใคร รุ่น Black Edition ยังมีโลโก้เบนท์ลีย์ ‘Winged B’ และตัวอักษร BENTLEY สีดำเงารวมถึงโลโก้ Black Edition บริเวณบังโคลนหน้า นอกจากนี้ ล้ออัลลอยด์ 10 ก้าน ขนาด 22 นิ้วยังตกแต่งด้วยสีดำเงา พร้อมด้วยตัวเลือกเฉดสีดำทูโทนแบบเงา และคาลิปเปอร์เบรกสีส้ม Mandarin ที่ตัดกันอย่างสวยงามเป็นมาตรฐานสำหรับทั้งสามรุ่นพิเศษ

รุ่น Continental GT และ Continental GTC Black Edition โดดเด่นด้วยไฟหน้าเดี่ยวแบบ Harmony ดีไซน์ใหม่ พร้อมกับแอนิเมชันต้อนรับ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในรุ่น Speedและรุ่น Azure

ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยการปักตัวอักษร Black Edition บนพนักพิงศีรษะของเบาะโดยสารคู่หน้าในรุ่น Continental GT และพนักพิงศีรษะของเบาะโดยสารทั้ง 4 ที่นั่งในรุ่น Flying Spur นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งด้วยไม้วีเนียร์แบบ Piano Black กาบบันได Black Edition และการเย็บแบบคอนทราสต์ตามความต้องการของผู้ครอบครอง พร้อมด้วยเบาะโดยสารแบบ Comfort ระบบไฟ Mood Lighting หลากสีภายในห้องโดยสาร จอแสดงผลแบบ Rotating Display และแป้นเหยียบคันเร่งแบบสปอร์ต

เครื่องยนต์อันทรงพลังและแชสซีประสิทธิภาพสูง
Black Edition คือ เจ้าของขุมพลังเครื่องยนต์แบบ High Performance Hybrid ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ของเบนท์ลีย์ ซึ่งผสานเครื่องยนต์รุ่น V8 ขนาด 4.0 ลิตร 520 แรงม้าเข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้า 190 แรงม้า สามารถผลิตพละกำลังรวมสูงสุดถึง 680 แรงม้า แรงบิด 930 นิวตันเมตร และอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 3.7 วินาทีสำหรับรุ่น Continental GT และรุ่น Continental GT Convertible และ 3.9 วินาทีในรุ่น Flying Spur รถยนต์ทั้ง 3 รุ่นมีพิสัยการเดินทางด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนกว่า 80 กม. นอกจากนี้ Black Edition ยังมาพร้อมกับระบบไอเสียแบบสปอร์ตที่จะเพิ่มเสียงคำรามที่ดุดันจากเครื่องยนต์รุ่น V8 ขนาด 4.0 ลิตรเมื่อกดคันเร่งเต็มที่
เทคโนโลยี Bentley Performance Active Chassis ในรุ่น Black Edition ใหม่นี้ ปัจจุบันมีเฉพาะในรุ่น Speed เจ้าของขุมพลัง 782 แรงม้าเท่านั้น ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่สนุกไปกับสมรรถนะในการขับขี่ที่หลากหลายยิ่งขึ้น ตั้งแต่โหมด Comfort และ Bentley ไปจนถึงโหมด Sport ที่เน้นสมรรถนะ ในโหมด Sport นั้น Bentley Performance Active Chassis สามารถส่งกำลังได้สูงสุดถึง 100 เปอร์เซ็นต์ไปยังล้อหลังเพื่อมอบการตอบสนองในการขับขี่ขับขี่ที่มีประสิทธิภาพและคล่องตัว นอกจากนี้ โหมด Sport ยังส่งผลต่อการปรับการเลี้ยวของล้อหลังได้อย่างชัดเจน พร้อมกับการปรับการหน่วงและช่วงล่างที่แน่นขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่รู้สึกถึงพวงมาลัยที่ตรงและคล่องตัวมากขึ้น พร้อมเร้าใจไปกับประสบการณ์การขับขี่ในแบบสปอร์ตที่เหนือชั้น

ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและข้อเสนอพิเศษได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V

เกี่ยวกับ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าเบนท์ลีย์ทุกท่านและรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคันด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 38 ปี พร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือตรวจสอบและวิเคราะห์สำหรับรถยนต์เบนท์ลีย์โดยเฉพาะนำเข้าจากโรงงาน การรับประกันอะไหล่แท้ และบุคลากรที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้น โดยมี Qualified High Voltage Technician หนึ่งเดียวในประเทศไทยเป็นผู้รับรองงานซ่อมและงานบำรุงรักษารถยนต์ไฮบริดตามมาตรฐานโรงงาน ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอสฯ ดูแลทั้งรถและคุณ (AAS Looking After YOU And Your CAR)” และให้ชื่อ AAS เป็น “The Name You Can Trust”

Gallery